แม่ค้าพ่อค้ามือใหม่ ไลฟ์ขายของ ขายของออนไลน์ เสียภาษีอย่างไร?
ในยุคสมัยนี้ การมีธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเองสามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ให้ผู้ขายสามารถไลฟ์ขายสินค้าได้เอง ทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าอย่างชัดเจนและตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น หลายคนในตอนนี้กำลังเติบโตผ่านการไลฟ์ขายของออนไลน์ แต่จะทราบไหมว่าการขายของออนไลน์หรือไลฟ์ขายของต้องเสียภาษีอย่างไร? วันนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจไปด้วยกัน
ไลฟ์ขายของ หรือขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีรูปแบบใด?
หากคุณเป็นบุคคลผู้มีรายได้ โดยเงินได้ที่ได้รับ มาจากการทำธุรกิจส่วนตัวที่ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจะถือว่าเงินได้ที่ได้มานั้นต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ตามมาตรา 40 คือเงินได้ที่เกิดขึ้นที่ไม่ใช่ 40(1) – 40(7) แต่เป็นเงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์, การเกษตร, การอุตสาหกรรม, การขนส่ง ฯลฯ เช่น ขายก๋วยเตี๋ยว, โอเลี้ยง, โรงแรม, ภัตตาคาร, โรงพิมพ์, โรงกลึง, สีข้าว, ฆ่าสัตว์, โรงโม่ ,ตัดเย็บเสื้อผ้า, ตัดผมเสริมสวย รวมไปถึง นักร้องนักแสดง ฯลฯ
ไลฟ์ขายของ หรือขายของออนไลน์ยื่นภาษีอย่างไร
พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ประเภทที่ 8 จะต้องยื่นภาษี 2 ช่วงคือ
- การยื่นภาษีครึ่งปี : เป็นการยื่นแบบที่เรียกว่า ภ.ง.ด. 90 จะอยู่ในช่วงมกราคม – มีนาคมของทุกปี เพื่อสรุปรายได้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
- การยื่นภาษีครึ่งปี : เป็นการยื่นภาษีที่เรียกว่า ภ.ง.ด. 94 จอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี เพื่อสรุปรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปี พวกค่าลดหย่อนก็จะถูกหักเหลือครึ่งหนึ่งด้วย อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระภาษีไม่ต้องไปจ่ายภาษีหนักทีเดียวตอนสิ้นปี
ขายของออนไลน์ ไลฟ์ขายของเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไร?
หากต้องการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประเภทที่ 8 สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 3 แบบ
1. หักตามค่าใช้จ่ายจริง สำหรับที่มีการผลิตภายในร้าน
2. หักตามค่าใช้จ่ายตามอัตรา 60% สำหรับพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์แบบซื้อมาขายไป ไม่มีการผลิตภายในร้าน
3. หักแบบเหมา คิดภาษี 0.5% หากมีรายได้จากการขายของออนไลน์มากกว่า 1,000,000 บาท
หากค่าใช้จ่ายเหมา 60% และมีแค่ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- มีรายได้ทั้งปีเกิน 60,000 – 525,049 บาท
: ต้องยื่นภาษีเงินได้ แต่ไม่ต้องเสียภาษี
- มีรายได้ทั้งปี 525,050 บาทขึ้นไป
: ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเริ่มต้น 1 บาท
- มีรายได้ทั้งปี 1,000,001 บาทขึ้นไป
: ต้องเสียภาษี 11,500 บาท
- มีรายได้ทั้งปี 2,000,000 บาท
: ต้องเสียภาษี 63,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ภาษีที่เราจ่ายไปสามารถลดลงได้อีกถ้าหากมีเอกสารค่าใช้จ่ายจริง เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าลูกจ้าง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขาย สามารถนำมาพิสูจน์ได้จริงว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่าการหักค่าใช้จ่ายเหมา เมื่อนำไปคำนวณภาษีแล้วสามารถลดจำนวณเงินภาษีที่ต้องเสีย
ขายของออนไลน์ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือไม่?
ถ้าหากมีรายได้จากการขายของออนไลน์ทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งรายรับจากการขายนี้ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 30) และเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี)