ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต (Internet) เพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 67% ของประชากรทั้งหมดภายในประเทศ ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันไปสู่ชีวิตดิจิทัล ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมออนไลน์หลัก ๆ 5 กิจกรรมด้วยกัน ได้แก่ Social Media, รับ-ส่งอีเมล, ซื้อสินค้า และบริการ, ส่งข้อความ และใช้แอปฯ ถ่ายทอดสด (Live)

            จากที่กล่าวไปข้างต้น พบว่าการซื้อสินค้า และบริการเป็นกิจกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการซื้อสินค้าออนไลน์นั้นมีความเสี่ยงที่ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าที่เป็นของปลอม หรือสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จึงเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ โดยจะมุ่งแก้ไขประเด็นการระงับการละเมิดลิขสิทธิ์ ด้วยการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) เป็นผู้รับผิดชอบในการระงับการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ต ทั้งการแจ้งเตือน และถอดเว็บไซต์ออกจากระบบ หลังจากได้มีการตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงกระบวนการในการระงับ หรือถอดเนื้อหาที่ละเมิดออกจากอินเทอร์เน็ตแบบเดิมมีความล่าช้า

            ดังนั้นกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่จะทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถยับยั้งงานที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์สามารถแจ้ง และยื่นหนังสือส่งไปถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้เลย โดยระบุชื่อของตนเอง ชื่อผลงานที่ถูกละเมิด พบการละเมิดที่ใด เมื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว พบว่างานนั้นถูกละเมิดลิขสิทธิ์จริงจะต้องถอดออกทันที และทำการแจ้งไปที่คนที่เอางานนั้นมาใช้บนเว็บไซต์ว่า มีการแจ้งจากเจ้าของผลงานตัวจริง ถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องดำเนินการเอาผลงานชิ้นนั้นออกจากเว็บไซต์ แต่หากผู้เอาผลงานขึ้นเว็บไซต์มีหลักฐานที่จะโต้แย้ง ก็สามารถยื่นหนังสือถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน