แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook เปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ ในงาน F8 2018 Conference ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า “Facebook Watch”

            Facebook Watch เป็นบริการวิดีโอในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่จะทำให้ผู้ใช้ค้นหาและรับชมวิดีโอบนโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อ พูดคุยกับผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับเนื้อหาในวิดีโอนั้น ซึ่งวิดีโอที่ถูกอัปโหลดลงบนเพจต่าง ๆ จะถูกแสดงอยู่ใน Watch ด้วยเช่นกัน ดังนั้นฟีเจอร์ใหม่นี้จึงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้สร้างสรรค์เนื้อหาและผู้เผยแพร่วิดีโอที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมและสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ Facebook ยังบอกอีกว่า การเปิดตัว Watch จะช่วยสนับสนุนผู้สร้างสรรค์เนื้อหาได้ โดยประกอบด้วย 2 ประการ คือสร้างรายได้ในช่วงพักโฆษณาจากวิดีโอบน Facebook และการรายงานประสิทธิภาพการทำงานของเนื้อหาได้ดีมากขึ้น ส่วนการจัดการและวัดผลประสิทธิภาพวิดีโอ มีให้บริการแล้วในครีเอเตอร์สตูดิโอ (Creator Studio)

            ในขณะนี้ Facebook กำลังขยายบริการดังกล่าวไปยังผู้ใช้ทุกคนทั่วโลก โดยเริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและประเทสอื่น ๆ อีก 22 ประเทศ ด้วยฟีเจอร์ใหม่นี้ผู้สร้างสรรค์มีสิทธิ์ได้รับรายได้ผ่านช่วงพักโฆษณา ซึ่งอาจได้รับรายได้มากถึง 45% จาก Facebook อย่างไรก็ตามผู้สร้างเนื้อหาต้องมีวิดีโอ 3 นาทีและมีผู้เข้าชมวิดีโอนั้นมากกว่า 30,000 ครั้งภายใน 2 เดือน และต้องมีผู้ติดตามบน Facebook อย่างน้อย 10,000 ราย

            นั่นเท่ากับว่า Facebook Watch จะเข้ามาแข่งขันกับแพลตฟอร์มวิดีโอเช่น YouTube ของ Google แต่ Facebook  อาจมีความแตกต่างจาก YouTube ตรงที่ Facebook สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมและชุมชนได้มากกว่า ทำให้ผู้สร้างเนื้อหาและผู้ชมสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหา และโต้ตอบกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าการทำการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังได้รับความสนใจจากผู้สร้างเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นผลมาจากกลุ่มผู้ชมที่เป็นเป้าหมายมีแนวโน้มใช้อินเทอร์เน็ตและใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์เพิ่มมากยิ่งขึ้น

Source : Facebook 

บทความอื่นที่น่าสนใจ >> ลืมเซฟงานทำไงดี? แนะนำวิธีกู้ไฟล์ใน Microsoft Word 2016 ที่ไม่ได้บันทึกไว้