หลังจากกรมสรรพากร มีการจัดสัมมนาในหัวข้อ “ก้าวสำคัญ...ธุรกรรมการเงิน ด้วยบัญชีชุดเดียว” เมื่อวันที่ 21 กันยายน 61 ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่ทางกรมสรรพากร ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสำนักงานบัญชี โดยมาตรการบัญชีชุดเดียว เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเกิดความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการจัดทำบัญชีชุดเดียวให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของกิจการ เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง พร้อมเสมอสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

            ทั้งนี้ผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs และสำนักบัญชี จะต้องดำเนินการตามมาตรการบัญชีชุดเดียว เนื่องจากบัญชีชุดเดียวนั้นจะทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดทุนที่ไม่จำเป็น จัดการบริการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าข้อมูลนั้นมีความโปร่งใส และสะท้อนถึงผลประกอบการที่แท้จริง นอกจากนี้ยังทำให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ และสามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นได้

            ดังนั้นผู้ประกอบการที่ยังไม่ทำบัญชีชุดเดียว ควรจัดทำให้ถูกต้องก่อนสายเกินไป หากคุณไม่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลกระทบถึงธุรกิจของคุณได้ ฉะนั้นหากคุณยังทำบัญชีในกรณีดังต่อไปนี้อยู่ ควรแก้ไขให้ถูกต้องเสีย

• บันทึกเงินสดลงในบัญชีมากกว่าหรือต่ำกว่าความเป็นจริง
• รายการค้างจ่ายที่แสดงในบัญชีสูงกว่าความเป็นจริง เนื่องจากไม่ได้ตัดรายการที่ชำระค่าค้างจ่ายแล้วออกจากบัญชี
• สินค้าคงเหลือในบัญชีสูงกว่าความเป็นจริง
• ลูกหนี้การค้าที่แสดงในบัญชีสูงหรือต่ำกว่าความเป็นจริง
• บันทึกข้อมูลสินค้าสูงกว่าความเป็นจริง
• บันทึกเงินปันผลไม่เป็นไปตามความเป็นจริง

            จากกรณีที่กล่าวไปข้างต้น เป็นเพียงสิ่งที่พบในการทำบัญชี ดังนั้นการทำบัญชีชุดเดียว จะสามารถลดความผิดพลาดเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการทุกรายควรบันทึกรายการ และมูลค่าทุกอย่างในบัญชีให้สอดคล้องกับความเป็นจริง มิเช่นนั้นความผิดพลาดนั้นอาจส่งผลทำให้ธุรกิจของคุณหมดความน่าเชื่อถือ