หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินว่า การเข้าชมเว็บไซต์อย่างปลอดภัยบนโลกออนไลน์ ควรมองหาสัญลักษณ์กุญแจล็อกสีเขียวที่ด้านบนของเว็บเบราว์เซอร์ ก่อนป้อนข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิตลงในแบบฟอร์มออนไลน์ แต่ตอนนี้แค่กุญแจล็อก อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้อมูลสำคัญ ๆ มีความปลอดภัยอีกต่อไป

            เนื่องจากพวกมิจฉาชีพจะพัฒนาวิธีทางใหม่ ๆ เพื่อขโมยข้อมูลบนโลกออนไลน์ ซึ่งไม่นานมานี้มีคนรายงานว่า พวกมิจฉาชีพสามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้เข้าชม จากเว็บไซต์ที่มีแม่กุญแจสีเขียว หรือ HTTPS ไปยังเว็บไซต์ของตนเองแทนเว็บไซต์เดิมได้ด้วย นั่นหมายความว่า HTTPS หรือกุญแจล็อกสีเขียวไม่อาจรับประกันได้ว่าเว็บไซต์จะปลอดภัย

            ตามข้อมูลจากบริษัทด้านความมั่นคง และความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง PhishLabs โดย Brian Krebs ได้รายงานด้านความปลอดภัย แสดงให้เห็นว่าเกือบครึ่งของเว็บไซต์ทั้งหมดที่เป็นเว็บไซต์ปลอม หรือเว็บไซต์หลอกลวงมีกุญแจผีที่บ่งชี้ว่าเป็นเว็บไซต์ปลอดภัย ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้มีกุญแจล็อกอยู่ใน URL เหมือนกับเว็บไซต์อื่น ๆ ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้การท่องโลกออนไลน์ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เนื่องจากในรายงานประจำเดือนตุลาคมจากคณะทำงาน Anti-Phishing ยังกล่าวอีกว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากพึ่งสัญลักษณ์รูปกุญแจ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการตัดสินใจว่าเว็บไซต์ปลอดภัย และเชื่อถือได้หรือไม่

            ดังนั้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงทำให้เราเห็นว่า แม้เว็บไซต์จะมีกุญแจล็อก หรือสิ่งที่ยืนยันถึงความปลอดภัยมากแค่ไหน ผลก็คือไม่มีทางใดที่จะช่วยปกป้องเราจากด้านมืดของอินเทอร์เน็ตได้ 100% สิ่งที่คุณทำได้ คือ คุณต้องคอยระมัดระวังการเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกลวง รวมถึงควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อาทิเช่น เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ มีสัญลักษณ์ยืนยันการจดทะเบียนการค้าหรือไม่ เป็นต้น

            นั่นหมายความว่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่า URL ของเว็บไซต์นั้นถูกต้อง และถ้าหากเป็นไปได้เราแนะนำให้พิมพ์ URL ลงบนเว็บเบราว์เซอร์แทนการคลิกลิงก์จากแหล่งที่มาอื่น ๆ อย่างแชทของสื่อสังคมออนไลน์ หรืออีเมล เพื่อไม่ให้คุณถูกหลอกลวงจากเว็บไซต์ปลอมที่หลอกให้คุณเชื่อถือ นอกจากนี้พวกซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยก็สามารถช่วยคุณได้ เพราะมันจะแจ้งเตือนเมื่อ URL ไม่ตรงกับเว็บไซต์ที่ถูกต้อง หรือแจ้งเตือนไม่ให้คุณเปิดเว็บไซต์หลอกลวงเหล่านั้น