หากถามถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินชีวิตปัจจุบัน จะต้องมี “อินเทอร์เน็ต” อยู่ในลิสต์ด้วยแน่นอน โดยอย่างยิ่งกับประชากรในประเทศไทยที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วคนไทยจะใช้ 3G/4G ในการค้นหาและรับข้อมูล ข่าวสารบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย พวกเขาก็ต้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจะค้นหาโรงแรมที่สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi กับพวกเขาได้ก่อน

          ระบบอินเทอร์เน็ตมีบทบาทเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับกลุ่มโรงแรม โดยต้องมี “Wi-Fi Hotel” ให้บริการลูกค้าที่มาเข้าพัก ซึ่งต้องมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ การให้บริการอินเทอร์เน็ตในโรงแรมที่เราเคยพบเห็นส่วนใหญ่แล้วจะมีเพียง 2 แบบเท่านั้น ได้แก่

1. การให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบมีสาย (Wired internet)

          เป็นเครือข่ายที่ใช้สาย Ethernet หรือเทคโนโลยีเครือข่าย LAN ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง การให้บริการในลักษณะนี้เป็นการใช้สายเล็ก ๆ จากเราเตอร์ เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ดังนั้นหลาย ๆ โรงแรมจะมีสายสำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ภายในห้องพัก

2. การให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wireless Internet)

          การให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อว่า “Wi-Fi” เป็นวิธีการให้บริการบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต (Broadband Internet) โดยไม่ต้องใช้สายในการเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก เพียงมีเราเตอร์สำหรับปล่อยอินเทอร์เน็ตในโรงแรมตามจุดต่าง ๆ ซึ่งอาจต้องใช้เราเตอร์หลายตัว เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของโรงแรม ส่วนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตก็แสนง่ายเพียงมีรหัสในการเข้าใช้ Wi-Fi ผู้เข้าพักก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในโรงแรมได้แล้ว

          หลังจากที่เราได้เป็นนักท่องเที่ยวเข้าพักตามโรงแรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่โรงแรมจะหันมาใช้อินเทอร์เน็ตแบบไร้สายกันหมดแล้ว เพราะมีความสะดวกมากกว่าไม่ต้องเดินสายอินเทอร์เน็ต  อย่างไรก็ตามไม่ว่าโรงแรมจะใช้อินเทอร์เน็ตรูปแบบใดก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยในการท่องอินเทอร์เน็ตของลูกค้า ต้องใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ